Admin Chue
28 Jul 2020

พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ใต้ร่มพระบารมี พสกนิกรปลอดโรคปลอดภัย .....

 

พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงห่วงใยในสุขภาพและพลานามัยของพสกนิกรชาวไทยเป็นอย่างยิ่ง พระราชกรณียกิจของพระองค์ในฐานะองค์นายกกิตติมศักดิ์มูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช เป็นที่ประจักษ์ใจชาวไทยโดยทั่วไป นอกจากจะทรงอุปถัมภกโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชทั้ง 21 แห่ง มาตั้งแต่ครั้งดำรงพระอิสริยยศเป็น “สมเด็จ พระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราช กุมาร” เพื่อช่วยบำบัดทุกข์บำรุงสุขพสกนิกรทั่วทุกภูมิภาคในการรักษาโรคทั่วไปแล้ว เมื่อประชาชนชาวไทยต้องเผชิญกับวิกฤตการณ์ใหญ่ไวรัสโควิด-19 ที่แพร่ระบาดไปทั่วโลก พระองค์ก็ได้พระราชทานพระราชทรัพย์อย่างต่อเนื่องรวดเร็วทันท่วงที เพื่อปกป้องบุคลากรทางการแพทย์และประชาชนให้ปลอดภัยจากการติดเชื้อโควิด-19 

ภายใต้ “โครงการเครื่องช่วยหายใจและเครื่องมือแพทย์พระ ราชทาน” ได้พระราชทานพระราชทรัพย์ให้ “เอสซีจี” ดำเนินการก่อสร้างนวัตกรรม “ห้องตรวจเชื้อ” ให้โรงพยาบาลต่างๆ 20 แห่งทั่วประเทศ เพื่อเสริมความพร้อมหากมีสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ระลอกใหม่ ขณะเดียวกัน ยังพระราชทานรถตรวจโรคติดเชื้อชีวนิรภัย ออกตระเวนลงพื้นที่ให้บริการประชาชนทั่วไป เพื่อตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ยังความปลื้มปีติแก่บุคลากรทางการแพทย์ ตลอดจนประชาชนทุกหมู่เหล่า ต่างรู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น

ตลอดเวลาหลายทศวรรษที่ผ่านมา “พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว” ยังทรงเอาพระทัยใส่ผู้ป่วยโรคมะเร็งอย่างมาก เพราะถือเป็นโรคร้ายอันดับหนึ่งที่คร่าชีวิตประชาชนชาวไทย ดังที่มีพระราชดำรัส เนื่องในพิธีเปิดการประชุมวิชาการโรคมะเร็งภาคพื้นแปซิฟิก ครั้งที่ 11 ณ กรุงเทพมหานคร ความตอนหนึ่งว่า 

“เป็นที่ทราบกันดีว่า โรคมะเร็งเป็นโรคร้ายที่เป็นอันตรายต่อชีวิตมนุษย์อย่างยิ่ง และอัตราการป่วยด้วยโรคนี้ก็ยังไม่มีท่าทีจะลดลง ไม่ว่าในประเทศที่เจริญแล้ว หรือประเทศที่กำลังพัฒนา จึงเป็นการแน่นอนว่า มะเร็งนั้น ไม่แต่จะเป็นโรคร้าย ทำลายชีวิตมนุษย์ หากยังเป็นตัวการทำลายความสุข ความเจริญ ทุกสิ่งของมนุษยชาติพร้อมกันไปด้วย จำเป็นอย่างยิ่งที่ประเทศทั้งหลาย จะร่วมมือกันป้องกัน และลดอัตราการป่วยด้วยโรคนี้ลงให้ได้”

ด้วยพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อผู้ป่วยโรคมะเร็ง ทรงสนพระทัยการดำเนินงานของสถาบันมะเร็งแห่งชาติเป็นพิเศษ พระองค์เสด็จเยี่ยมผู้ป่วยโรคมะเร็งและพระราชทานสิ่งของแก่ผู้ป่วยมะเร็งอย่างต่อเนื่อง ยังความปลาบปลื้มและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณแก่ผู้ป่วยเป็นยิ่งนัก

ทั้งนี้ สถาบันมะเร็งแห่งชาติ ได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2527 อยู่ภายใต้สังกัดกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข เพื่อเป็นหน่วยงานในการบำบัดรักษาและป้องกันโรคมะเร็ง โดยการดำเนินงานของสถาบันมีความก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว มีการขยายหน่วยงานดำเนินโครงการจัดตั้งสถานรับผู้ป่วยโรคมะเร็งธัญบุรี และจัดตั้งศูนย์ป้องกัน และควบคุมโรคมะเร็งในส่วนภูมิภาค 6 แห่ง คือ ลพบุรี, ชลบุรี, อุบลราชธานี, สุราษฎร์ธานี, ลำปาง และอุดรธานี หลายครั้งมีพระมหากรุณาธิคุณเสด็จพระราชดำเนินเปิดศูนย์ด้วยพระองค์เอง

ขณะเดียวกัน ยังได้พระราชทานแนวพระราชดำริในการดูแลสุขภาพและพลานามัยของพสกนิกรชาวไทย อันเป็นที่มาของโครงการเฉลิมพระเกียรติต่างๆ ที่มุ่งมั่นในการบำบัดรักษาและเยียวยาผู้ป่วยโรคมะเร็ง ไม่ว่าจะเป็นโครงการเฉลิมพระเกียรติ 48 พรรษามหาวชิราลงกรณ ทรงรับเป็นองค์ประธานโครงการสถานรับผู้ป่วยมะเร็งธัญบุรี หรือโครงการกาญจนบารมี ณ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี บนเนื้อที่ 100 ไร่ ได้ทำพิธีวางศิลาฤกษ์ เมื่อปี 2529 และดำเนินการก่อสร้างตึกผู้ป่วยในปี 2530 เป้าหมายสำคัญของการจัดสร้างสถานรับผู้ป่วยมะเร็งธัญบุรีคือ การสร้างศูนย์บำบัดรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งอย่างครบวงจร มีการจัดสร้างศาลาวิปัสสนาและฟังธรรม ซึ่งได้รับพระราชทานนามว่า “ศาลาธรรมานุภาพ” หมายถึงอานุภาพแห่งธรรม พร้อมสร้างอาคารผู้ป่วย 400 เตียง ภายหลังได้รับพระราชทานนามจากองค์ประธานโครงการว่า “กาญจนบารมี” อีกทั้งยังพระราชทานนามศูนย์รับผู้ป่วยว่า “ศูนย์มหาวชิราลงกรณธัญบุรี” พระราชทานนามอาคารอำนวยการว่า “พัชรกิติยาภา” และพระราชทานนามสวนสมุนไพรว่า “สิริวัณณวรี”

ภายในศูนย์ดังกล่าวยังมีสถานที่ให้การดูแลผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย ด้วยระบบการดูแลแบบประคับประคองเป็นแห่งแรกของประเทศไทย โดยจัดหอผู้ป่วยให้มีลักษณะคล้ายบ้าน และเป็นธรรมชาติ มีห้องต่างๆสำหรับทำกิจกรรมกลุ่ม และห้องสำหรับครอบครัว ตลอดจนจัดเตรียมบุคลากรพร้อมเพื่อดูแลผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ยังมีโครงการพุทธธรรมสำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็ง เพื่อใช้หลักพุทธศาสนาเป็นหลักธรรมในการช่วยเยียวยาผู้ป่วยด้านจิตใจ และโครงการฝึกอบรมหลักสูตรอาสาสมัครบริบาลผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย เพื่อให้การตายเป็นไปอย่างสุขสงบ และสมศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ ไม่ต้องทนทุกข์ทรมาน

นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ต่อปวงชนชาวไทย ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน.

 

ข้อมูลโดย ไทยรัฐออนไลน์ ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 28 ก.ค. 2563 05:15 น.

https://www.thairath.co.th/news/royal/1898144